by เด็กที่รอคอย เขียนลงใน Bloggang เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2548


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

เมื่อครั้งที่แม่ยังอายุอยู่ในวัยม.ต้น แม่มีเพื่อนสนิทมากอยู่คนนึงที่อยู่บ้านใกล้กัน ไปโรงเรียนเดียวกัน มักจะได้ห้องเรียนเดียวกัน มีความเก่งกาจในการนำครอบครัวพอๆกัน แถมท้ายรายการ จะท้องก้อดันท้องใกล้ๆกัน …. มีลูกสาวเป็นคนแรกเหมือนกัน โดยที่ลูกของเพื่อนน่ะรีบผุดรีบเกิดก่อนเด็กที่รอคอยเพียง 10วันเท่านั้น นี่สิ เพื่อนรักของแท้ … ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวการมีเพื่อนก่อนเกิดว่ามันเป็นยังไง

แต่วันนี้จะขออ้างอิงถึงเพื่อนแม่คนนี้ ซึ่งอ่านคำสาปฟาโรห์มาตั้งแต่วัยสิบห้าหยกๆ สิบหกหย่อนๆ มาจน…สี่สิบปลายๆ …

ใช่ค่ะ ถูกต้องแล้ว อย่างที่เข้าใจนั่นแหละว่า นิยายภาพของ อ.โฮโซคาว่า ชิเอโกะ ยังคงดำเนินมาจนบัดนี้ โดยไม่จบไม่สิ้น และยังดิ้นรนหาตอนอวสานอยู่ชนิดแทบไม่มีทางเป็นไปได้

เด็กรุ่นใหม่ก้อคงแค่ได้ยินมาว่า มันยังไม่จบเลย นานมากแล้ว … น้องๆจะรู้กันมั้ยว่า ไอ้ที่มันออกมาตั้งแต่เล่มบางยันเล่มหนา จนกระทั่งมันรวมเป็นเล่มอ้วนแล้วอ้วนอีก แล้วก้อตามมาด้วยภาคห้าภาคหกเนี่ย ตีให้เลยก้อได้ว่ามันอยู่ค้ำฟ้ามาแล้ว..กว่าสี่ทศวรรษด้วยกัน

ไม่ธรรมดาจริงๆ….

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ย้อนไปเมื่อสมัยตอนที่ยังอายุไม่ถึงสิบขวบ …จริงๆแล้วต้องบอกว่า มันเริ่มตั้งแต่ตอนอยู่อนุบาล2 น่ะนะ…. การ์ตูนเรื่องแรกที่เด็กที่รอคอยอ่าน คือ โดราเอม่อน ที่ทำให้ทุกวันมีแต่ความสนุกสนาน ถ้าปีหน้ามีโอกาสกลับเมืองไทยอีกก้อว่าจะไปถอยแบบยกชุดบิ๊กบุ๊คมาซะที และคงจะตามด้วยการหาซื้อแผ่นมานั่งดูอีก แต่ว่าเรื่องต่อไป ผู้ปกครองสมัยนี้คงพิจารณากันสูงเพราะเรื่องเรตติ้งที่กำลังระบาดอยู่ แต่สมัยนั้นแม่ของเด็กที่รอคอยไว้ใจลูกมากค่ะ

เธอเลยทิ้งลูกเธอไว้กับการ์ตูนเรื่อง…คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า ผลงานสุดคลาสิคของ เทเรซาว่า ฟูอิจิ … เข้าท่าดีเหมือนกันเนอะ แม่เรา…

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เด็กที่รอคอยก้อมีอันเติบโตมาอย่างรันทด เพราะติดการ์ตูนเหมือนยาเสพติด ทำยังไงก้อไม่หายเพราะแม่ให้กินปลากระบอกแทนไปถ้ำกระบอก แต่ที่แม่ไม่ได้เอะใจว่า จะเป็นตำนานชีวิตของเด็กที่รอคอยไปได้ก้อคงจะเป็นเรื่องนี้ล่ะมั้ง…

คำสาปฟาโรห์ ที่ทุกคนรู้ดีกันว่า ชาตินี้อาจไม่มีวันอวสาน และเราทั้งหลายล้วนแล้วแต่โดนคำสาปกันถ้วนหน้า อนิจจา…. ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ (ถ้าเชื่อ..ค่อยว่ากันเนาะ … )

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ถ้าจะเล่าสู่กันฟังโดยย่อๆ คำสาปฟาโรห์เป็นเรื่องราวของสาวน้อยวัย16 ปี แครอล ลินตัน ทายาทคนสุดท้องของครอบครัวนักธุรกิจชาวอเมริกันซึ่งมีกิจการขุดบ่อน้ำมันในแถบตะวันออกกลาง โดยที่ครอบครัวลินตัน เป็นสปอนเซอร์ให้กับการขุดหาหลุมศพของฟาโรห์รายล่าสุดเพื่อส่งเสริมแครอลผู้ซึ่งหลงไหลกับมนต์เสน่ห์ของประวัติศาสตร์โบราณอียิปต์

ในขณะที่แครอลยังคงมุ่งมั่นอยู่กับการเรียนด้วยความเพลิดเพลินและมีความรักที่สดใสกับจิมมี่ หนุ่มน้อยหลานชายศาสตราจารย์ บราวน์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประวัติศาสตร์โบราณอียิปต์และอักษรฮีโรกรีฟิค พระศพของฟาโรห์ในราชสกุลเนฟรูมาท ก้อได้ถูกค้นพบพร้อมๆกับการปรากฏตัวของหญิงสาวนามว่า ไอซิส ผู้ซึ่งเข้ามาอาศัยอยู่กับครอบครัวลินตันเพราะความเอื้ออารีของแครอล

โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า ท่ามกลางความปลื้มปีติยินดีของครอบครัวลินตันนั้น จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ มิสเตอร์ลินตันต้องถึงแก่ชีวิต และแครอลต้องหายสาปสูญไปโดยไม่มีใครรู้ร่องรอย

แม้ว่า ไรอัน และ รอย พี่ชายของแครอลผู้รักน้องสาวดังดวงใจจะตามหาแครอลจนแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก้อไม่อาจฝ่าปริศนาได้ว่า แครอลได้หายไปไหน มีเพียงเธอเท่านั้นที่จะบอกตัวเองได้ว่า ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าและทุกสิ่งทุกอย่างที่จับต้องอยู่นั้น ไม่ใช่ความฝันหรือภาพลวงตา หากแต่เป็นความจริง

แครอล ได้ถูกไอซิสลักพาตัวมายังโลกแห่งอดีตเมื่อ3พันปีก่อนด้วยความอาฆาตแค้นที่ครอบครัวของเธอบังอาจไปรบกวนการหลับไหลของฟาโรห์ เมมฟิส น้องชายและคู่รักของไอซิสผู้เปรียบประดุจสมมติเทพแห่งไอยคุปต์ในยุคนั้น ด้วยพลังอำนาจแห่งเวทมนต์ของไอซิสนั้นทำให้แครอลหลุดเข้ามาในยุคโบราณลำพังเพียงคนเดียวโดยที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะทั้งสีผมสีตาและสีผิวของเธอ แตกต่างจากคนทั่วไป

แต่ในความน่าสะพรึงกลัวที่พลัดหลงมาอยู่ในห้วงเวลาสนธยานั้น แครอลก้อได้พบรักแท้กับฟาโรห์หนุ่มนามว่า เมมฟิสแห่งราชสกุล เนฟรูมาท ซึ่งแน่นอนว่า เป็นคนเดียวกันกับที่เธอเคยได้พบมาแล้วในยุคปัจจุบัน ต่างกันเพียงแค่ว่า เขาที่เธอเคยเห็น คือศพในสภาพมัมมี่ที่ถูกโจรขโมยจากพิพิธภัณฑ์ ทว่า เขาในขณะนี้ มีเลือดเนื้อและชีวิต

เป็นดังแก้วตาดวงใจของเธอที่สุดก้อว่าได้

ชีวิตของแครอลหลังจากที่พบรักกับเมมฟิส ต้องเผชิญกับมรสุมต่างๆนาๆ เมื่อประเทศข้างเคียงล้วนแล้วแต่จ้องจะขย้ำอียิปต์โดยพยายามหาเล่ห์กลมาชิงตัวแครอลผู้ซึ่งครองตำแหน่งราชินีแห่งอาณาจักรอียิปต์อันรุ่งเรือง โดยที่แรกเริ่มเธอต้องฝ่าฟันให้รอดมาจากเงื้อมมือของเจ้าชาย อิสมิลจากประเทศฮิตไทต์ เจ้าชายอารูกอนจากประเทศอัสซีเรีย และจักรพรรดิ์ราคัชจากประเทศบาบิโลเนีย

อีกทั้งยังต้องผจญกับแรงริษยามาดร้ายของเจ้าหญิงไอซิสผู้ซึ่งถูกฟาโรห์เมมฟิสสลัดรักเมื่อรู้ใจตัวเองว่า เขามิได้รักเธอ หากแต่ผูกพันกันเพราะเป็นพี่น้องกัน และเพราะในราชสำนักวางกฏเกณฑ์ไว้ให้เขาอภิเษกสมรสกับผู้ที่เหมาะสมที่สุดเพื่อราชบัลลังก์

เรื่องราวของคำสาปฟาโรห์ เป็นอย่างไรต่อไป ท่านทั้งหลายโดยมากก้อคงจะทราบกันดีอยู่แล้วสินะ ….เป็นไง เด็กที่รอคอยเล่าซะสวยหรูดูดีเลยมะ? ก้อ 2ภาคแรกมันสนุกจริงๆนี่นา อ่านแล้วลื่นไหล ความคิดเลย แล่นปื๊ด แล่นปื๊ด!

แต่อย่าให้พูดถึงปัจจุบันเลยนะ…. คนอื่นน่ะยังไม่เท่าไหร่ เจ้าชายอิสมิลน่ะสิ..อื้อหือ….บานเชียว….

(หรือจะเถียง ว่าไง วี่? )

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

มาพูดถึงความรู้สึกส่วนตัวของเจ้าของบล๊อคมั่งดีก่า …

ปัจจุบันนี้ เก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัวเพียงแค่ 2ภาคเท่านั้นเอง พอเริ่มภาค3 ก้อตามซื้อนะ แต่มันกระจัดกระจายเนื่องจากช่วงนั้นอยู่เมืองนอก พอกลับไปซื้อที่เมืองไทยก้อไม่สามารถขนมาได้หมดจึงฝากแม่ไว้ให้ช่วยดูแล แล้วก้อพบว่า เล่ม1อยู่ เล่ม2หาย เล่ม3ขาดไปครึ่งเล่ม …. สรุปว่า มี แต่ไม่ครบส่วน ก้อเลยรอให้สำนักพิมพ์เค้าพิมพ์ออกมาใหม่ซึ่งก้อพิมพ์นะคะ แต่พระเจ้าไม่ช่วยเท่าไหร่

แม่มพิมพ์เป็นเล่มอ้วนออกมา ….

แล้ว ตรู จะตามยังไงวะ มีหวังต้องตามซื้อกันใหม่อีกสิ เอาก้อเอา…

พอลองซื้อรวมเล่มเพื่อสะสมใหม่อีกที มันก้อออกมาแบบใหม่อีก!! พอ!พอ! ไม่ซื้อแล้ว เอาให้มันถึงที่สุดของการรอคอยก่อนดีกว่าค่อยจัดการเจี๋ยนมันซะ

2 ภาคแรกค่อนข้างลงตัวดีเพราะตัวละครยังไม่เยอะมากไป และที่สำคัญ ความรักของเจ้าชายอิสมิลที่มีให้แครอลนั้นก้อดูยังไม่เวอร์เกินไปด้วย กล่าวคือ มาอียิปต์เพื่อแก้แค้นให้น้องสาว แต่เมื่อพบกับแครอลเข้าให้ก้อหลงรักทันที และด้วยความแค้นส่วนตัวกับอียิปต์อยู่แล้วจึงจงใจจะแย่งชิงมาให้ได้ …. แต่พอมาถึงภาคหลังๆนี่ ชักจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ในภาค3 ที่เจ้าชายปล่อยแครอลให้หนีกลับไปอียิปต์เพราะรู้ตัวว่าตั้งท้องกับเมมฟิสแต่มีเรื่องผิดใจกันนั่นน่ะ ยังโอเคนะ …ก้อดูดีแหละ แต่ที่ขัดใจก้อคือ

ทำไมไม่ให้เจ๊แครอลแกพยายามผ่าตัดเอาลูกกระสุนปืนออกก่อนฟะ ยังงี้จะตามกันมาเพื่ออะไรทั้งปีทั้งชาติ จะบ้าเรอะไง แล้วจนป่านนี้เด็กที่รอคอยก้อยังไม่มั่นใจว่า เจ้าชายแขนเน่าไปยัง หรือว่าหมอหลวงผ่าออกให้แล้ว คิดดูสิมันจะไปยากเย็นอะไรกับการที่จะบอกว่า มีวัตถุฝังอยู่ใต้ผิวตรงไหล่เพื่อทำการผ่าตัด เพราะตอนแครอลต้องขึ้นเขียงให้หมอหลวงผ่าตัดและเข้าเฝือกมันก้อมีนี่ ยังชมอีกด้วยซ้ำว่าการแพทย์สมัโบราณก้อไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปัจจุบันเลย ที่จะยังล้าหลังก้อเพียงแค่ตัวยาเท่านั้น

แล้วทำไม………. ฮึ….ทำไม๊ ทำไม? ไหนบอกหน่อยสิ ว่า ทำไม?? ทำไมต้องยืดเยื้อกันขนาดนี้ด้วย นึกตามหลักความเป็นจริงล่ะก้อ เจ้าชายคงม้วยมรณาไปเสียนานแล้วเพราะบาดทะยัก

ส่วนเจ้าชายอารูกอนนั้นก้อปะติดประต่อเรื่องได้ดีพอสมควร เพราะอาณาจักรอัสซีเรียนั้นล้มหายไป อาจจะเพราะเกิดน้ำท่วมอย่างที่แครอลออกอุบายให้เปลี่ยนทิศทางของแม่น้ำสายหลักทั้งสองสาย ให้ไหลทะลักเข้ามาสู่ตัววังทำให้โครงสร้างพังพินาศไปต่อหน้าต่อตา … ที่ไม่ชอบใจนักก้อคือว่า ภาพของเจ้าชายอารูกอนที่มักจะแลบลิ้นแผล่บๆเลียริมฝีปากน่ะ มันเหมือนกับ… (โปรดเติมคำในช่องว่าง … ) ปัจจุบันยันภาค5 ก้อเข้าใจว่า ยังเลียอยู่….

จักรพรรดิ์ราคัชแห่งบาบิโลเนียนี่เจ๋งมาก แค่คนเดียว เหมาหมดภาค2ทั้งภาคเลย เพราะเป็นตำนานของอาณาจักรที่เคยสวยงามประหนึ่งสวรรค์บนดิน และไอเดียของหอคอยบาบิโลนที่มีอันต้องล้มครืนด้วยความคิดของแครอล โดยการนำดินระเบิดและน้ำมันดิบมาเป็นตัวหลัก …ยอดมากค่ะ ราคัชเป็นแบบอย่างของผู้ชายตัวอิจฉาที่ดีทีเดียว มีทั้งสง่า ราศี ลาภยศตำแหน่ง ทั้งความฉลาดเฉลียวและความริษยามาดร้าย เจ้าเล่ห์ และเหี้ยมโหด …เอ….

ลักษณะนี้ มันไปคล้ายกับคนเหลี่ยมจัดของบ้านเรารึเปล่าน้อ…

และเรื่องราวของภาค2ที่จบลงด้วยการผิดใจกันของคู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันหมาดๆและต้องถูกพรากจากกันเพราะเงื้อมมือของผู้คิดร้ายนั้น …บอกตรงๆว่า สุดยอด คนเรารักกันแค่ไหนยังไง มันต้องมีกันบ้างที่จะรู้สึกหึงหวงและน้อยใจกันเพียงเพราะเข้าใจผิดกัน เล็กน้อยบ้าง ใหญ่หลวงบ้าง อย่างคู่เนี้ย จะบอกให้ตรงๆเลยว่า เขายังเด็กทั้งคู่ แครอล 16 เมมฟิสก้อ 18-19 เอง ถึงจะเป็นฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ แต่เรื่องหัวใจกับความรักเด็กที่รอคอยว่า เขาไม่ประสีประสาเท่าไหร่ เลยฉลาดน้อยมากกับการถูกเจ้าหญิงคาฟลา แห่งลิเบียหลอกใช้

แล้วสามี ภรรยา ก้อมีเรื่องผิดใจกันยกใหญ่จนแครอลหนีกลับบ้านไปหาแม่ในยุคปัจจุบันจนเกือบจะไม่ได้กลับมาหาคุณสามีเสียแล้วมั้ยล่ะ

เพราะว่ามีตัวละครใหม่โผล่มาอีกคน ที่จริงเขาก้อน่าจะได้รับบทเด่นหน่อยนะ เพราะถือได้ว่าเป็นเจ้าชายของเช็คท่านหนึ่งในดินแดนอาหรับอันร้อนระอุ

เจ้าชายอาฟมัน นั่นเอง

ที่จริงถ้ามีแบบนี้เยอะๆหน่อยก้อดีนะ เจ้าชายอาหรับเท่าที่เห็นน่ะ หน้าตาไม่เอาอ่าวกันซะส่วนใหญ่ เอ้าจริงจริ๊ง เห็นมาแล้ว! แต่ว่าในการนำเสนอตัวละครเนี่ย ยังไม่ถึงนะคะ เพราะของจริงมันจะเอาแต่ใจตัวเองกว่านี้อีกเยอะเลย ทั้งมารยาททรามต่อผู้หญิงเพราะประเทศทางนั้นไม่ได้ยึดถือว่าการให้เกียรติสตรีเป็นเรื่องสำคัญ อย่างแครอลเนี่ยถ้าจะตกลงปลงใจกับอาฟมัน ก้อเป็นได้แค่เมียรอง อาจจะเป็นรองอันดับแรกสุด เพราะเสน่หาเป็นการส่วนตัว แต่เมียหลวงของเขาน่ะต้องเป็นคนชาติเดียวกันและมาจากสกุลรุนชาติดี อาจจะเป็นพวกเจ้าหญิงของเจ้าเมืองเช็คอาหรับนั่นน่ะแหละ

แต่ก้อต้องขอชมเชยว่า การไปเที่ยวอียิปต์ของ อ.โฮโซคาว่า นั้นไม่เสียเปล่า เพราะพยายามเก็บรายละเอียดเรื่องเสื้อผ้าและสถานที่ในยุคปัจจุบันมาเยอะเชียว

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

วันก่อนมีคนไถ่ถามที่เว๊บบอร์ดว่า “ตอนจบของเรื่องคำสาปฟาโรห์เป็นยังไง” ซึ่งก้อไม่มีใครจะตอบได้หรอก เพราะจริงๆแล้วมันยังไม่จบ(และไม่มีวี่แววว่าจะจบ ) ยังไม่รู้เหมือนกันว่า แครอลจะต้องท่องโลกยุคโบราณให้ครบทุกที่ๆมีตำนานลึกลับหรือเปล่า (บางคนก้อว่า ประเด๋วก้อไปเจอะ เจ็งกีสข่านที่เมืองจีนหรอกแม่คู๊ณ!!)

แต่ถ้าพูดถึงตอนจบเนี่ย เด็กที่รอคอยก้อลองไปนั่งคิดนอนคิดดูแล้ว ถ้าหากมันจะจบประมาณนี้ก้อคงจะดีนะ…

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

แครอล ยังคงดำรงตำแหน่งราชินีแห่งอียิปต์ โดยให้กำเนิดลูกอีกคน แต่ว่าเมมฟิสถูกลอบปลงพระชนม์โดยพวกที่ต้องการล้มราชวงศ์เพื่อให้ไอซิสได้ขึ้นครองแทน และเมื่อไอซิสได้พรรคพวกเป็นกำลังเช่นนั้นจึงใช้กำลังของกองทัพอียิปต์เข้าไปตีบาบิโลเนียที่ตัวเองเป็นราชินีจนกษัตริย์ราคัชถึงแก่ชีวิต แล้วเดินทางกลับมาตีอียิปต์คืน แครอลจึงต้องลี้ภัยไปจากอียิปต์และจากนั้นก้ออาศัยอยู่ที่มาเซโดเนีย

แต่ด้วยจิตใจที่อ่อนแอลงประกอบกับโรคประจำตัวกำเริบ จึงไม่สามารถต่อสู้โรคภัยได้ไหว และถึงแก่กรรมในเวลาต่อมา โดยที่ลูกของแครอลยังคงเป็นเชื้อพระวงศ์ระดับเจ้านายที่เกาะมาเซโดเนียอย่างเงียบๆเพื่อหลบหลีกการคุกคามของไอซิส

ส่วนราชินีองค์ใหม่แห่งไอยคุปต์นั้นอยู่ครองตัวเป็นโสดโดยอุทิศตนเป็นข้ารับใช้เทพแห่งวิหารไอซิส แต่หลังจากนั้นไม่นานก้อถูกวางยาพิษจนสิ้นใจ ภายหลังทายาทของแครอลจึงได้กลับมาครองราชย์ที่อียิปต์อีกครั้งโดยความช่วยเหลือจากผู้ที่ยังภักดีต่อเมมฟิสและแครอล

ในยุคปัจจุบัน พระศพของฟาโรห์ เนฟรูมาท ที่ถูกขโมยไปนั้นได้ถูกตามพบในที่สุด ไรอันมาเป็นพยานในการพิสูจน์พระศพที่ห้องวิจัยแล้วพบว่า ภายในมือของมัมมี่นั้น กุมล๊อคเก็ตที่ไรอันเคยให้แครอลเอาไว้ ภายในบรรจุเส้นผมสีทองยาวสลวยจำนวนหนึ่ง ส่วนพระศพของไอซิสนั้นได้ถูกพบในเวลาไม่นานนักโดยที่นักขุดค้นพบว่า ถูกฝังไว้อยู่ในหลุมฝังศพเดียวกันแต่ว่าอยู่ในห้องลึกลับ ทว่า มีเพียงโลงศพเท่านั้นไม่มีร่างมัมมี่

และที่มาเซโดเนียนั้นก้อได้มีการขุดพบหลุมฝังศพของสตรีราชนิกูลในสมัยโบราณ โดยคาดว่า มีเชื้อ DNA ของชาวผิวขาวและเป็นการทำศพด้วยลักษณะมัมมี่แบบอิยปต์โบราณ ภายในหลุมฝังศพนั้นมีเรื่องราวความเป็นมาของสตรีผู้นั้นถ่ายทอดบนกระดาษปาปิรุสเป็นภาษาอังกฤษ โดยขึ้นต้นว่า

ถึงพี่ไรอันที่รักยิ่ง…

จบและ

…………………..

คงไม่ต้องบอกนะคะ ว่า อย่าเชื่อ

รอไม่ไหวนี่นา…. เด็กที่รอคอย แต่งเองเลยดีก่า ฮึ!