ตามรอย 40 นิตยสารการ์ตูนผู้หญิง ในอดีต

Oct 18th, 2008 | By | Category: Articles, Featured Article

ตามรอย 40 นิตยสารการ์ตูนผู้หญิง ในอดีต

by Patsy+ เขียนลงในห้องการ์ตูน เฉลิมไทย pantip.com เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2549

ทิ้งช่วงไปนาน (มาก) สำหรับกระทู้โครงการนี้กับโครงการที่แล้วนะครับ มาคราวนี้อาจจะแตกต่างจากครั้งก่อนๆ พอสมควรคือด้านข้อมูล ด้วยความที่ไม่ค่อยมีเวลาประกอบกับเหตุผมอื่นๆ อีกต่างๆ นานา ทำให้ข้อมูลบรรยายนิตยสารแต่ละฉบับมีบ้างไม่มีบ้าง ข้อมูลที่มีทั้งหมดก็มาจากความร่วมมือร่วมใจจากป้าๆ ที่ใจดีของเรามาช่วยๆ กันบอกเล่าคุยเกี่ยวกับนิตยสารที่เคยอ่านในอดีต ตามผมมาเลยครับ


Dream  เล่มนี้เห็นออกมาเล่มเดียวแล้วหายไปเลย


เฟรนด์


เฟรนด์ Extra


Gift Magazine


Gift Extra

เป็นเล่มที่รวบรวมเรื่องสั้นๆ จบในตอนของนักเขียนชื่อดังเช่นกัน เรื่องเด่นที่ลงใน Gift Extra ที่รู้จักกันดี (และเรียกร้องให้พิมพ์ใหม่ทีเทิ้ด) คือ คุณน้ามือปราบ (เมงูมิ อิชิโกะ ตำรวจสาวผู้ค้นหาผู้ชาย 5 ดี-รูปร่างหน้าตาดี นิสัยดี เซนส์ดี บุคคลิกดี และหัวดี) ของ อ.ยามาโตะ วากิ ส่วนผลงานประจำที่ได้ลงใน Gift Extra เกือบสม่ำเสมอเป็นของ อ.จิเอโกะ ฮาระ งานแนวย้อนยุคของญี่ปุ่น (ยุคโชกุนอ่ะนะ) ธีมเรื่องมักจะเป็นความรักท่ามกลางสงครามหรือการแย่งชิงอำนาจ การแก้แค้น อาจมีเทพหรือปีศาจร่วมแจมบ้าง นอกจากนั้น Gift Extra ยังมีผลงานเป็นตอนที่นำมารวมเล่มของ อ.โอโน ฮิโรมุ ผลงานดังช่วงนั้นคือ รอยเขี้ยว ชีวิตของผีดูดเลือดหนุ่ม ภาคแรก โอฟรี &ทาเนีย ภาค 2 โอฟรี &ลูซิลด์ (สาวน้อยนักบัลเลด์) และภาค 3 โอฟรี &ลูนาร์ รวมทั้งเรื่องสั้นของ อ.ฮิคาวะ เคียวโกะ (จอมคนแดนฝัน) ที่ VBK นำมารวมเล่มทีหลังในชื่อ “หญิงก็วุ่นชายก็วุ่น”รวมทั้งนักเขียนชื่อดังอื่นๆ อีกมากมาย อ.อาคาอิชิ มิจิโยะ (งานปัจจุบันอยู่ค่าย BK) อ.อิเคโนะ โคอิ (ลงภาคพิเศษของรันเซ่-อสูรน้อยกระซิบรัก) อ.คุซึโนกิ เคย์ (ผู้วาด innocent W, Onikirimaru) ฯลฯ (โดย แว่นน้อย@หาดใหญ่)

Gift Hello


Gift Out of Order

เป็นนิตยสารลูกของ Gift Mag. เรียกย่อๆ กันว่า กิฟท์เอ้าท์ โดยเฉลี่ยจะออก 2 เดือนต่อ 1 เล่ม จุดเด่นของกิฟท์เอ้าท์คือ การแจก pin up หรือภาพสีของนักเขียนดังๆ ภายในเล่ม รวมทั้งเป็นเหมือนกิฟท์เล่มพิเศษที่รวบรวมเรื่องสั้นจบในตอนของอ.ดังๆ ที่คุ้นเคยกันดี เช่น อ.ชิโนฮาร่า จิเอะ (ยุคนั้น purple eyes กำลังดัง) ฟูยูมิ โซเรียว (หัวใจสีชมพูที่ช่วงนั้นลงใน Gift เป็นเรื่องรักใสๆ ติดตลก แทบจะพลิกงานปัจจุบันที่รู้จักกันเลย ES ที่ออกไปทางดราม่าหนักๆ) คาซูโกะ ฟูจิตะ (ไรซิ่ง และลูกสาวของจูเลียตที่ลงใน Friend) ภาคพิเศษของ อ.ยามาโตะ วากิ ที่นำเอาเรื่อง สงครามกับความรัก และรักสุดขอบฟ้า (ชิโน่ & เออวิ่ง)มามิกซ์ และเรื่องสั้นอีกหลากหลายของนักเขียนดังๆ ฯลฯ (โดย แว่นน้อย@หาดใหญ่)


Gift Special


Grand Mag.


จอย


KISS

เลมอน การ์ตูนรสเปรี้ยว

นิตยสารการ์ตูนของค่ายสยามสปอร์ต ที่ออกตามหลัง Gift Mag นานมาก แต่ตีคู่มาได้ โดยไม่เน้นคอลัมน์ต่างๆ อย่างกิฟท์ แต่อาศัย แปลดี ออกไว (Froggie เขาว่ามา)
การ์ตูนที่รวมอยู่ในเล่มก็ล้วนแล้วแต่เรื่องฮิต อย่างลูกสาวซาตาน ไซเฟอร์ ฯลฯ
ออกมาได้หลายสิบเล่ม อายุยืนนานจนกระทั่งยุคฝันร้ายของคนอ่านการ์ตูนมาเยือน เมื่อการ์ตูนไทยเข้าสู่ยุคลิขสิทธิ์ เลมอนก็ปิดตัวลงในช่วงเวลานั้น (โดย =p o o k p u i=)


เลมอน Extra
สำนักพิมพ์ : สยามสปอร์ตพับลิชชิ่ง
ราคา : 12 บาท
นิตยสารรวมเรื่องสั้นรายสะดวก สไตล์เดียวกับพวก gift out of order รวมเรื่องสั้นของนักเขียนการ์ตูนผู้หญิงชั้นนำ (ในสมัยนั้น) หลายเรื่องเป็นภาคพิเศษของเรื่องยาวที่ลงในเลมอน เล่มที่ 5 ทิ้งช่วงมาประมาณหลายปีกว่าจะออกอีก แต่ออกมาแล้วก็หายจ้อยไปเลย พร้อมๆกับเลมอน ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละเล่มมีแต่การ์ตูนคุณภาพคับแก้วแบบหาอ่านที่อื่นยากทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ห้องเรียนอลเวง by นาริตะ มินาโกะ, รันเสะ ลูกสาวซาตาน ภาคพิเศษ ตอนแก๊งค์คามิยะ ปะทะ แก๊งค์เอโต, กุหลาบแวร์ซายส์ ภาคพิเศษ ฯลฯ ที่สำคัญ ยังมีคอลัมน์เล็กๆน้อยๆที่อ่านสนุก ได้ความรู้ อย่างเช่น สัมภาษณ์นักเขียนดังๆ (สมัยนั้น) อิเคโนะ โคย, นาริตะ มินาโกะ, อิงาราชิ ยูมิโกะ มีประวัติผลงานของนักเขียนเหล่านี้ ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการจนถึงปัจจุบัน (ปัจจุบันเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วนั่นแหละ) (โดย Froggie)


ลิปสติก
สำนักพิมพ์ : สมปรารถนา
ราคา : 10 บาท
เป็นนิตยสารการ์ตูนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ข้อสันนิษฐานโดยส่วนตัว เดาว่า เป็นบรรพบุรุษของสนพ.ไหนสักแห่ง ทีมงานเรียกตัวว่า Ray-arts collection ไม่รู้แน่ชัดว่าออกมากี่เล่ม แต่เล่มสุดท้ายที่ซื้อได้คือ เล่ม 6 การ์ตูนที่ลงมีตั้งแต่รักตลกอย่าง ลูกสาวซาตาน by Ikeno Koi, เอเลี่ยนสตรีท by Narita Minako ไปจนถึงแนวผจญภัยลึกลับอย่าง มัมมี่คืนชีพ by Wada Shinji ฝีมือการแปลดีมาก และแปลละเอียดทุกตัวอักษร แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ และมุมผู้เขียนคุยกับนักอ่าน หน้าปกออกสไตล์นิตยสารของสาวๆญี่ปุ่น ไม่เน้นหน้าปกการ์ตูนเท่าไหร่ ปลายปกพับเข้าข้างใน เป็นเอกลักษณ์ดี (โดย Froggie)


Melody


Melody & น่ารัก

น่ารัก (ชื่อเล่นของ จขกท. อิอิ)

MIMI


Mini Magazine
สำนักพิมพ์ : หมึกจีน
ราคา : 15 บาท
นิตยสารเล่มแรกของหมึกจีน และเป็นนิตยสารการ์ตูนเล่มเดียวที่เคยเห็นมีปกสองชั้น สาเหตุเพราะ mini ถือกำเนิดมาในสมัยที่หมึกจีนเริ่มทำการ์ตูนครั้งแรกๆ และยังใช้ปกสองชั้นเป็นเอกลักษณ์เหมือนต้นฉบับการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งนั่นก็เป็นเวลา..นานแสนนานมาแล้ว การ์ตูนที่ลงในเล่มแรกเล่มเดียวนี้จะหนักไปทางแฟนตาซี ลึกลับ เช่น ตำนานเทพ อาริสะ (อรีส ตำหนักเทพ) by Fuyuki Rurika, อินคา นครมายา by Takashina Ryoko, สู่แดนเมโสโปเตเมีย by Akisato Wakuni, ล่าข้ามมิติ by Nakamura Kei ฝีมือการแปลเฉยๆ ค่อนข้างไปทางมั่ว แต่พออ่านได้รู้เรื่อง แม้ว่าชื่อตัวละครจะเพี้ยนๆ เพราะคนแปลไม่หาข้อมูล อย่างเช่น อรีส เพอร์เซโพนี กลายเป็น เมโซฟานี ซุส เป็น เซส (อรีสช่างเป็นเรื่องที่อาภัพ สนพ.ไหนแปลก็ออกมาเพี้ยนทุกที) ชื่อ อ.ทากาชินะ เรียวโกะ ก็กลายเป็น ทากาชินาริ โยโกะ เฉยเลย Mini ออกมาเล่มนี้เล่มเดียวแล้วก็หายไปเลย พร้อมๆกับสนพ.หมึกจีน ก่อนที่จะโผล่ขึ้นมาในวงการการ์ตูนในอีกหลายปีต่อมา แต่ตอนนั้น positioning และ รูปแบบหนังสือก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้อีกแล้ว (โดย Froggie)


Non-no
สำนักพิมพ์ : วิบูลย์กิจ
ราคา : เริ่มต้น 12 จบลงที่ 15 บาท
คุณอาจจะไม่เชื่อว่า เรื่อง Yuyu hakusho หรือ คนเก่งฟ้าประทาน หรือ ผีไม่ใช่ผี เปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทยที่นี่ ในหนังสือการ์ตูนผู้หญิง…ที่ชื่อ นอนโน แนวเรื่องของการ์ตูนที่ลงนอนโน จะกลางๆ อ่านได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย มีทั้งรัก ตลก และ แนวแฟนตาซี พลังจิต แอ็คชั่น ลึกลับ อย่างเช่น Slow step จีบทีละขั้น by Adachi Misuru (ตอนนั้นวิบูลย์กิจแปลว่า สลอดเทป =_=” , อามาเทราสึ สงครามเทพเจ้า by Miuchi Suzue, วัยชุลมุน by Satomi kei, Sozaburo by Shibata Masahiro, เหนือฟ้าเหนือดาว by Akaichi michiyo, สาวน้อยแสนกล ภาคสอง by Hikawa Kyoko, เจ้าหญิง 100% by Akaichi michiyo, จัมบารา by Takashina Ryoko, Ghost by Togashi Yoshihiro, ภูติ by Kusunoki Kei นอนโนออกมาครั้งแรกปี 1986 ตอนแรกก็ทำตัวน่ารักดีด้วยการออกรายเดือนแบบตรงเวลา ต่อมาขาดๆหายๆ กลายเป็นรายสองเดือนมั่ง สามเดือนมั่ง แล้วแต่อารมณ์ของวิบูลย์กิจ จนในที่สุด พอถึง เล่มที่ 38 คาดว่าวิบูลย์กิจเริ่มรู้ตัวว่านักอ่านพากันสรรเสริญด้วยพริกเกลือ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Non-no Jump ตอนนั้นเรื่องเก่าๆสนุกๆที่เคยลงพากันจบลงหมดเกลี้ยงแล้ว จนเหลือแค่ สโลว์สเต็ป แอสไพรินแดนดี้ และ ภูติ(ซึ่งก็ใกล้จบ) ขึ้นศักราชใหม่ เปลี่ยนชื่อใหม่ ได้เรื่องใหม่ๆ มาลง มีทั้งสนุก และ ไม่สนุก แปรสภาพเป็นรายสะดวกตามใจฉันโดยสิ้นเชิง สุดท้าย ปี 1991 นอนโนก็ปิดตัวเองลง สิริรวมออกมาให้ยลโฉม 43 เล่ม (โดย Froggie)


OMO
เป็นแม็กกาซีนที่ออกมาในปลายช่วงไพเรทเต็มที หลังออกต่อเนื่องติดต่อกันได้ประมาณหนึ่งปี ก็ปิดตัวเพราะเข้าสู่ยุคลิขสิทธิ์ OMO เป็นแม็กกาซีนที่เน้นเฉพาะการ์ตูน จึงไม่มีคอลัมน์ต่างๆ แบบแม็กกาซีนฉบับอื่น ในเล่มมีการ์ตูนหลากหลายแนวตั้งแต่ดราม่า แฟนตาซี ลึกลับ ฯลฯ มีเรื่องเด่นเช่น นักรักโลกมายา หรือ หน้ากากแก้ว ของมิอุจิ สึซึเอะ โดยจะเป็นเวอร์ชั่นเดิมก่อนผู้เขียนแก้ไขพล็อตใหม่ ซึ่งมีการเดินเรื่องแตกต่างจากแบบปัจจุบันมากพอสมควร, ไฟปิศาจ ของ ชิโนฮาระ จิเอะ (ฉบับลิขสิทธิ์ออกโดย SIC ในชื่อ มฤตยูสีน้ำเงิน), Pony Tail ของโอโนะ ฮิโรมุ, ปริศนามรณะ ของ มัตสึโมโต้ โยโกะ, ชมรมนักสืบแคลมป์ และ X พลังล้างโลก ของ Clamp ก็เคยลงอยู่ในหัวนี้ (ตอนนั้นใครเลยจะคาดคิดว่าClamp จะไม่อาจเขียนเรื่อง X 1999 ไปจนถึงตอนจบได้เช่นนี้) (โดยคุณ vee vee’)
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 49 10:06:07

Yodtida Book Club หรือ วารสารยอดธิดา
คือใบสั่งซื้อการ์ตูนยอดธิดาเย็บรวมเล่มนั่นเอง โดยรายการการ์ตูนในเล่มจะแบ่งเป็นประเภทเช่นแนวโรมานซ์ มิสเทรี่ แอคชั่นเป็นต้น ต่อมาจึงพัฒนาเพิ่มปกสี่สีเคลือบมันสวยงาม และคอลัมน์ภายในเช่น <b>ยอดธิดานิวส์</b>เกี่ยวกับคืบหน้าของการ์ตูนยอดธิดาเอง หรือ<b>ใคร?อะไร?เมื่อไร?ที่ไหน?</b> ข่าวใหม่ของการ์ตูนผู้หญิงที่ญี่ปุ่น ด้วยความที่พื้นฐานคือใบสั่งซื้อการ์ตูน YBC จึงเป็นวารสารแจกฟรีแก่ผู้อ่านที่เขียนจดหมายเข้าไปขอยังสำนักพิมพ์ แม้ไม่มีอะไรพิเศษมากมายแต่ YBC ปกสีสดใสซึ่งมาพร้อมที่คั่นหนังสือลายการ์ตูนน่ารักก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้รอรับรู้สึกดี (โดย vee vee’)


แตงโม


ยอดธิดา พาฝัน

สำหรับ “ยอดธิดา พาฝัน” ราคาปก 10 บาท เป็นการเปิดศักราชใหม่ของการ์ตูนผู้หญิงรายสัปดาห์ โดยเรื่องเด่นที่เป็นตัวชูโรงคือ “คำสาปฟาโรห์ ภาค 2” ของ ชิเอโกะ โฮโซกาว่า ซึ่งฉบับแรกๆจะมีขอแจกของแถมมากมาย พร้อมด้วยเรื่องยาวสั้นที่รวมนักเขียนดังๆไว้หลายคนเช่น “เปอร์เชี่ยลบูล” ของ ฮาระ ชิเอโกะ “อาราเบี่ยน ไนท์” ของ อีงาราชิ ยูมิโกะ “ไลม์ทรี” ของ ยามาโตะ วากิ “รอยมรณะ” ของ โคมูโร่ ชิเกโกะ “เหยี่ยวทะเล” และ “ปราสาททมิฬ” ของ ยาสุโกะ อาโออิเกะ นอกจากนี้ก็มีประเภทเรื่องสั้น 2-3 ตอนจบของนักเขียนดังๆอีกเช่น “ฆาตกรรมนอกสูตร” ของ ทากาชินะ เรียวโกะ,”แองเจิ้ล เอ๊ก” ของ อาชิเบะ ยูโฮ,” รักอำพราง” ของ โซดะ ฟูมิเอะ,”คิมหันต์สวาท” ของ โยชิ โยโกะ, “ไพรเวท ไทม์” ของ มาจิโกะ ซาโตนากะ,”จดหมายจาก เรลล่า” ของ อาริโยชิ เคียวโกะ “ช็อคกิ้งพิ๊งค์ 33 &frac12; ของ คาซามะ ซุซุมิ, “ถึงพี่ชายของฉัน” ของ อิเคดะ ริโยโกะ, “จักรวรรดิ นักบุญอลิส” ของ มิอุจิ ซึซึเอะ,“มารีโอเน็ต ตอน อำนาจลึกลับ ตอน สวนปริศนา และตอน โคเร็ตดำ” ของ ไอดะ มายูมิ,“มิสเตอร์ พิงค์” ของ อีเคซูมิ ชิเอโกะฯลฯ พร้อมคอลัมน์สุดฮิตอย่าง “ขวัญใจยอดธิดา”,”ถามมาก็ตอบไป” และ “ฝีมือใครมีเขียนมาสิ”
“ยอดธิดา พาฝัน” ตั้งแต่เล่ม 1-40 ยังคงใช่ภาพปกของเรื่อง “คำสาปฟาโรห์” มาโดยตลอด และเริ่มจะมีการปรับโฉมปกใหม่อีกครั้งโดยการเปลี่ยนรูปแบบปกตั้งแต่เล่มที่ 41 เป็นต้นไป โดยปก “ไลม์ทรี” เป็นปกประเดิมและสลับกับปกของ “คำสาปฟาโรห์” หลังจากนั้นก็มาจบลงที่เล่ม 80 ก่อนจะมีการปรับปรุงใหม่เป็น “พาฝัน NEW FACE” แต่ยังมีการตูนตกค้างที่ยังไม่จบอยู่สองเรื่องเช่น “คำสาปฟาโรห์ ภาค 2 ” ของ ชิเอโกะ โฮโซกาว่า และเรื่อง ”เพียงคำว่ารัก” ของ นาคามูระ นาคะ
ข้อดีของ “ยอดธิดา พาฝัน” คือ การ์ตูนจะไม่ซ้ำกับ “เลมอน” ที่ออกรายปักษ์เหมือนกัน เป็นการ์ตูนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และหลายเรื่องในพาฝัน รายสัปดาห์ก็ถูกจัดออกมารวมเล่มขายอีกครั้งอยู่หลายเรื่อง (โดย yamato_waki)
ยอดธิดา พาฝัน NEW FACE
ครั้งแรกที่มีการปรับโฉมใหม่หมดตั้งแต่หน้าปกยันเนื้อใน เพิ่มปริมาณหน้าหนาขึ้น มีเนื้อหาและหน้าสีบอกเรื่องด้วย ราคา 15 บาท (จะทำเหมือน กิฟท์ แมกกาซีน) เฉพาะเล่มแรกนั้นเป็นการตัดจบของ “คำสาปฟาโรห์ ภาค 2” ปกแจ้งว่าออกรายปักษ์ แต่ความเป็นจริงกลับออกเป็นรายเดือนในหน้า บ.ก. แจ้งเหตุผลของขั้นตอนการผลิตและต้องมีหน้าสีอีกจึงทำให้ล่าช้าเป็นพิเศษ สำหรับพาฝัน NEW FACE เล่มนี้จะประกอบด้วยเรื่องยาว 4 เรื่อง เรื่องสั้น 2 เรื่อง เรื่องยาวนั้นประกอบด้วย “เพียงคำว่ารัก” ของ นาคามูระ นาคะ (เนื้อหาต่อเนื่องมาจาก “พาฝัน รายสัปดาห์”),”บูลซอนเน้ท ภาค เขี้ยวงาสีแดง” ของ ชิบะตะ มาซาฮิโร่, “MAGIC BITTER” ของ ฮิวาตาริ ซากิ และ ยูซากิ แชลแนล ของ เอมิโกะ ชิซึ ในส่วนของเรื่องสั้นนั้นก็จะมีผลงานของนักเขียนที่ยอดธิดานำเสนออยู่เป็นประจำก็ได้แก่ โคมูโร่ ชิเกโกะ (เจ้าแม่แห่งการ์ตูนสยองขวัญจาก รอยมรณะ),ฮาระ จิเอโกะ (เจ้าแห่งการ์ตูนรักหวานหวานแหวว) แถมยังมีตอนต่อของการ์ตูนแนวสอบสวนตอนล่าสุดของการ์ตูนชุด “พัสซึ่ลเกม ไฮสคูล” มาให้อ่านกันอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีของแถมคือ “มินิพ็อกเก็ตบุ๊ค” เรื่องสั้น อย่าง “เคหสน์ลวง” ของ โคมูโร่ ชิเกโกะ,”พฤกษาอสูร 3” ของ ทากาชินะ เรียวโกะ และ “บูลซอนเน้ท ภาคเขี้ยวงาสีแดง” อีก 2 เล่มซึ่งแยกตอนต่อจากฉบับที่ 4 มาแจกแถมใน พาฝัน NEW FACE ฉบับที่ 3-6 หลังจากนั้นก็เริ่มที่จะหน้าสีหายไปทีละเล่มสองเล่ม เพราะว่าค่ากระดาษขึ้นเลยสู้ราคานี้ไม่ไหว จึงเป็นอันปิดตัวอย่างเป็นทางการในฉบับที่ 9 ซึ่งทั้ง 4 เรื่องยาวถูกจ่อหัวท้ายเรื่องว่า (รออ่าน “ฉบับรวมเล่ม” สมบูรณ์ เร็วๆนี้) ซึ่งก็รวมเล่มออกมาได้เพียง 3 เรื่องเท่านั้นคือ “เพียงคำว่ารัก” 5 เล่มจบ “MAGIC BITTER” 4 เล่มจบ และ ยูซากิ แชลแนล 7 เล่มจบ และเรื่อง “บูลซอนเน้ท ภาค เขี้ยวงาสีแดง” ก็ไม่ได้พิมพ์รวมเล่มออกมา (แต่หาอ่านได้ของ สำนักพิมพ์ จัมโบ้) เป็นอันอวสานของการ์ตูนผู้หญิงที่ชื่อว่า “ยอดธิดา พาฝัน NEW FACE” (โดย yamato_waki)

ปล. ฉบับนี้ไม่มีรูปนะครับ ต้องให้คุณ yamato_waki เอามาลงให้

LOOKOUT พาฝัน
ครั้งแรกที่ยอดธิดาออกรวมเรื่องสั้น 4 เรื่องเป็นเล่มพิเศษ ราคาปก 15 บาท ที่ออกมาเพื่อต้อนรับปีใหม่โดยเฉพาะไม่ได้ออกทุกเดือน แต่เป็นรายสะดวกมากกว่า แถมยังรวมนักเขียนดังๆไว้ตามเคยเช่น “รักต่างแดน” ของ ฮาระ จิเอโกะ, “สายสัมพันธ์” ของ อาซางิริ ยู, “มนต์ขลังคอมเพโต” ของ ทาคาฮาชิ ชิซุรุ และ “สาวน้อยมหัศจรรย์” ของ ซาโตอุ มาริโกะ พร้อมของแถมเป็น คอเล็คชั่นการ์ด ด้วยเล่มนี้จะขายดีมาก เพราะความแปลกตามากกว่า รูปเล่ม ภาพปกขึ้นเรื่องสั้นในเล่มของฮาระ จิเอโกะ สำหรับเล่มนี้แล้วถือว่าอมตะม๊ากมากกกกกก (โดย yamato_waki)


พาฝัน MIDYEAR
เล่มพิเศษอีกครั้งที่ออกภายในปีเดียวกันกับ “LOOKOUT พาฝัน” ราคาปก 15 บาท ยังคงสานต่อความสนุกและเรื่องสั้นไว้ 4 เรื่องครบรส พร้อมด้วยการ์ตูนจากผู้เขียนดังๆเช่นเดิมอาทิ “สื่อรักสลัดผัก” ของ ฮาระ จิเอโกะ,”สาวน้อยมหัศจรรย์ ภาค 2 เลิฟซองส์ อ.ต.ร.” ของ ซาโตอุ มาริโกะ “ไฟหลงเชื้อ” ของ โซดะ ฟูมิเอะ และ ตอนแรกของ “มิสเตอร์ พิงค์ ตอน พิ๊งค์ กับ พี่ยู” ของ อีเคซูมิ ชิเอโกะ (ส่วนตอนต่อๆไปลงใน พาฝัน รายสัปดาห์) หน้าปกก็ยังคงเป็นเรื่องเด่นนำมาขึ้นปกเช่นเคย สำหรับเล่มนี้ก็ยังถือว่าอมตะอีกเล่ม (โดย yamato_waki)


หวาน

อีกหนึ่งนิตยสารการ์ตูนของค่ายสยามสปอร์ต แค่ชื่อก็บอกว่าน่าจะลงการ์ตูนหวานๆ แต่อันที่จริงก็ไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ น่าจะตั้งชื่อให้เข้าคู่กับเลมอนมากกว่า เข้าใจว่า
การ์ตูนที่ลง ไม่รู้ไปไงมาไง ออกแนวแฟนตาซี เยอะเหมือนกัน อย่างธิดาสมุทร ของ อ. ฮางิอิวะ มุสึมิ เรื่องของเหล่าฝาแฝด อย่างโทเมะกะโยเนะ ของ อ. ฮางิอิวะ มุสึมิ รุมิกะรุกะ ของ อ. ชิโนฮาระ จิเอะ (โดย =p o o k p u i=)

สการ์เล็ตต์

Scarlett (สะกดด้วย-tt) เป็นแม็กกาซีนการ์ตูนผู้หญิงรายสัปดาห์แบบลิขสิทธิ์เล่มแรกของไทย ระยะเวลาออกอยู่ในช่วงปี 93-94 เมื่อเปรียบกับแม็กกาซีนก่อนลิขสิทธิ์ของวิบูลย์กิจเช่น Gift แล้ว Scarlett นับว่าขาดลูกเล่นไปหลายอย่างเช่น คอลัมน์สไตล์วัยรุ่น หน้าสี หรือพินอัพการ์ตูนสวยๆ แต่เรื่องยาวที่ลงหลายเรื่องจัดได้ว่าเป็นการ์ตูนผู้หญิงชั้นดี เช่น พลิกตำนานมหัศจรรย์ เพลงรักพันราตรี อริสตำหนักเทพเจ้า เป็นต้น ในระหว่าง Scarlett ยังไม่ปิดตัวมีเหตุการณ์น่าสนใจหลายเหตุการณ์เช่น ความเห็นของผู้อ่านต่อลำนำต่างพิภพ ที่แบ่งเป็นสองฝ่ายซึ่งมีทั้งสนับสนุนและไม่เห็นด้วยที่นำเรื่องนี้มาลง หรือการก่อตั้งกลุ่มการ์ตูนอย่างเป็นกิจลักษณะกลุ่มแรกในไทยคือกลุ่ม Acho ซึ่งในขั้นต้นนั้นเริ่มจากผู้อ่าน Scarlett บางท่านรวมตัวกันนั่นเอง ต่อมา Scarlette ปิดตัวกระจายกลายเป็น 3 หัวคือ >Rina, Mystery Ole และ Mytery Noir (โดย vee vee’)

Mystery
คือแม็กกาซีนการ์ตูนผู้หญิงรายเดือนแบบลิขสิทธิ์ฉบับแรกของวิบูลย์กิจออกมาในช่วงปี 93-94 เรียกได้ว่าเป็นพี่สาวของ Scarlett เพราะออกมาก่อนกันได้ไม่นาน ความพิเศษของ Mystery คือรูปเล่มหนาเป็นสองเท่าของการ์ตูนปกติและมีภาพสีเปิดเรื่องตามต้นฉบับซึ่งคล้ายนิตยสารการ์ตูนของญี่ปุ่น เรื่องเน้นแนวลึกลับมีทั้งเรื่องสั้นจบในตอนและเรื่องยาวโดยเรื่องยาวที่เด่นๆ เช่น เอล พฤกษาอาถรรพ์ อย่างนี้ก็มีในโลก ชะตาปริศนา บุปผา-จันทรา-เวหา เป็นต้น Mystery ออกติดต่อกันได้หนึ่งปีคือ 12 ฉบับ ก่อนปิดตัวกับ Scarlett แล้วกลายเป็น 2 หัวคือ Mystery Ole และ Mystery Noir (โดยคุณ vee vee’)

Mystery Ole

Mystery Noir


Rina


Honey

Sweet


Gals
หมดแล้วครับ เป็นอย่างไรกันบ้าง จะเห็นว่ายังมีอีกหลายเล่มที่ยังรอป้าๆ ที่มีความผูกพันกับมันมาร่วมกันเขียนบทบรรยายกันอีกเยอะครับ ท่านใดสนใจอยากมาร่วมเขียนประกอบภาพสามารถเขียนมาในกระทู้นี้ได้เลยหรือจะหลังไมล์มาก็ได้ไม่ว่ากันครับ จะได้มาร่วมกันแบ่งปันความหลังเก่าๆ ที่ดีๆ ร่วมกันครับ

หลังจากนี้แล้วผมยังไม่มีโครงการต่อจากนี้ครับ เพราะยังไม่รู้ว่าจะเขียนและรวบรวมเกี่ยวกับอะไรดี ใครมีไอเดียดีๆ มาเสนอกันได้เลยนะครับ ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นที่ติดตามกันมาตลอดครับ

5 comments
Leave a comment »

  1. สุดยอดเลยครับ คิดถึงอดีตจัง อยากคุยกับคนทำัจังงครับ จริงๆนะ

  2. คุณ Patsy+ ผู้เขียนบทความ ส่วนใหญ่จะเล่นอยู่ที่ห้องการ์ตูน pantip.com ค่ะ ถ้าสนใจก็ลองสมัครสมาชิกที่พันทิพ แล้วส่งหลังไมค์ไปหาดูนะคะ

  3. that is definitely what I was searching for, You have saved me alot of time

  4. ว้าว คิดถึงการ์ตูนที่เคยตามซื้อเลยค่ะ

    ซื้ออย่างเดียวเลยไม่ค่อยรู้ประวัติ

    ขอบคุณนะคะ

  5. ตั้งแต่ Scarlett เป็นต้นมา จะเป็นการ์ตูนที่มีลิขสิทธิ์ค่ะ ก่อนหน้านั้น ยังเป็นการ์ตูนที่ไม่มีลิขสิทธิ์

Leave Comment